[ รีวิว ] คุณประโยชน์ และการใช้ Argan Oil (อาร์แกน ออยล์) เพื่อผิวและผมสวย

กรี๊สสส สวัสดีจ้าทุกคน

ขอบอกว่าวันนี้ตื่นเต้นมาก เพราะเป็นครั้งแรกในชีวิต

ที่ได้ลองใช้ Argan Oil (อาร์แกน ออยล์)

เพราะรู้สึกว่าได้ใช้เวลาเพื่อดูแลตัวเอง  

ได้อย่างคุ้มค่า สมกับ slogan " The Precious Moment "

และอีกเหตุผลนึงที่ทำให้ Argan Oil นั้นน่าลอง
เพราะเราเคยเห็นบทความในนิตยสาร Magazine
ดังๆของเมืองนอกบ่อยมากก เช่น น้ำมันใส่ผมของลอรีอัล
หรือครีมบำรุงดังๆ หลายตัว ก็ใส่เจ้า Argan oil ลงไปด้วย

สาเหตุที่เราสามารถเอาเจ้า Argan Oil นี้มาใช้ได้หลากหลาย

เพราะมันมีสาระสำคัญหลายตัวมากๆ

เช่น วิตามิน A วิตามิน E กรดไขมัน Coenzyme Q10

และ Polyphenol ต่างๆที่มีประโยชน์ 

(เค้าบอกว่า มี Vitamin E มากกว่าน้ำมันมะกอก หรือ Olive oil ถึง 3 เท่า )

มันเลยเป็นที่นิยม และมีความเลอค่าสูง จนถูกเรียกอีกอย่างว่า 

" The Liquid Gold " กันเลยทีเดียว

 ทีนี้ Argan Oil ก็มีหลายเกรด หลายคุณภาพเนอะ

และแบบที่ดีที่สุด จะเป็นแบบสกัดเย็น 

และถูกสกัดเพียงครั้งเดียว เลยจะเหลือวิตามินเยอะ
ข้อสังเกตคือจะมีกลิ่นนัทอ่อนๆ(คล้ายถั่ว)

และปราศจากสารกันเสีย
(เพราะ Argan Oil มีสารหลายตัวที่ช่วยกันเสียได้ตามธรรมชาติ)

และให้เลือกแบบที่บรรจุในขวดสีชา แบบยี่ห้อที่นำมารีวิวให้ดูกันในวันนี้

นั่นก็คือ “Argan Oil By OR’AGAN ” นั่นเอง

แนวคิดผลิตภัณฑ์ / Product Concept

Argan Oil By OR’AGAN เป็นผลิตภัณฑ์อาร์แกนออยล์

ที่นำเข้ามาจากประเทศโมร็อกโก     

ซึ่งจะพบได้ในสปาดังๆ คุณภาพสูง ระดับลักซ์ชัวรี่ขึ้นไป

เช่น ที่โรงแรมมาราเกช หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา 

ก็มีการนำผลิตภัณฑ์ตัวนี้ไปใช้ที่ Noora spa เรียบร้อยแล้ว 

จุดเด่นคือ เป็นน้ำมันอาร์แกนที่บริสุทธ์มากกก

คือบริสุทธิ์ 100% เลยทีเดียว (ไม่มีน้ำมันอย่างอื่นมาผสมให้เจือจาง)

และเป็นแบบที่สกัดเย็น สกัดเพียงครั้งเดียว

และไม่ผสมสารปรุงแต่งหรือสารกันเสียใดใด

จึงมีความปลอดภัยสูง

ใช้ได้แม้ผิวแพ้ง่ายหรือคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ก็ใช้ได้เช่นกัน

    หลายคนอาจสงสัย ว่าทำไมต้องเป็นน้ำมันอาร์แกน

หรือ Argan Oil จากประเทศโมร็อกโกเท่านั้น

คำตอบก็คือ ประเทศโมร็อกโก เป็นประเทศเดียวที่ต้นอาร์แกน

สามารถออกผลได้(เคยมีคนพยายามเอาต้นอาร์แกนไปปลูกที่อื่น 

ก็ไม่ยอมออกผล เช่น อิสราเอล และแม็กซิโก

ส่วนตัวมองว่าคงเป็นเรื่องของดินและสภาพอากาศที่แตกต่างกันนั่นเอง)

ทีนี้มาดูเรื่องอื่นๆกันบ้าง 

บรรจุภัณฑ์ / Packaging

เป็นขวดแก้ว ฝาหยดแบบ Dropper

ใช้งานสะดวก และมีสีชา ช่วยถนอมคุณค่าของสารออกฤทธิ์เป็นอย่างดี

รายการส่วนผสม / Ingredients :

100 % Pure Organic Argan Oil

สารออกฤทธิ์ / Active Ingredients

1. สารกลุ่ม Saponin ซึ่งมีฤทธิ์ต้านเชื้อรา

2. กรดไขมัน (fatty acid) ชนิดไม่อิ่มตัว เช่น oleic acid, linoleic acid, 

stearic acid และ palmitic acid ช่วยลดอาการผิวแห้ง ลดการเกิดริ้วรอย

3. วิตามินชนิดละลายในน้ำมัน เช่น แคโรทีน

(อนุพันธ์ของวิตามิน A)และ โทโคฟีรอล(อนุพันธ์ของวิตามิน E)

4. สารกลุ่มโพลีฟีนอล (polyphenol ได้แก่ vanillic acid, syringic acid,
ferulic acid, tyrosol, catechol, resorcinol, (-)-epicatechin,
(+)-catechin, caffeic acid และ oleuropeine)

ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ดีในการต้านสภาวะออกซิเดชัน (antioxidant)
ซึ่งจะช่วยเป็นสารกันเสียในน้ำมันได้

และมีผลทำให้เซลล์ผิวหนังเสื่อมช้าลง ผิวหนังมีสุขภาพดีขึ้น

เนื้อสัมผัส / Texture

เป็นน้ำมันสีเหลืองทอง กลิ่นคล้ายถั่วอ่อนๆ

ซึมลงผิวได้ดีกว่าพวกน้ำมันมะกอก ถ้าเกลี่ยดีๆ จะไม่ทิ้งความมันบนผิว

วิธีใช้ / How To Use

ใช้ทาบำรุงผิว ( หรือจะทาบำรุงเส้นผม และเล็บก็ได้ ) 

โดยจะใช้ได้ทั้งเดี่ยวๆ ทาเพียวๆ หรือผสมกับผลิตภัณฑ์บำรุง

 = สรุปจุดเด่น =

- ประโยชน์เยอะและหลากหลายมากๆ
สามารถใช้ได้ตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้า

- เป็นแบบสกัดเย็น วิตามินและสารออกฤทธิ์ต่างๆ ยังเหลือพอที่จะทำงานได้จริง

- ผลของ Argan สามารถทานได้ และน้ำมันบริสุทธิ์
ก็สามารถทานเป็นอาหารเสริมดูแลสุขภาพได้

- สามารถใช้ Argan oil ในการรักษาสิวโดยเฉพาะสิวในวัยรุ่นและรักษาอีสุกอีใส

- ช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมผิว จากผื่นแพ้ พุพอง ลอกเป็นขุย

- สามารถใช้ในการรักษาอาการผิวแห้ง

- ช่วยลดการเพิ่มขึ้นของ ริ้วรอยเหี่ยวย่น

- ทำให้เส้นผมเงางาม บำรุงหนังศรีษะให้แข็งแรง

- ลดการแห้งเสียจากการทำสีผม

- สามารถใช้ทาบำรุงเล็บมือได้

รายละเอียดเพิ่มเติม

    Facebook : www.facebook.com/theoraganth

    เวบไซต์หลัก www.theoragan.com

    หน้าข้อมูล Argan Oil : http://bit.ly/theoraganspecial2